วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

เรียนภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้น ฉบับสมบูรณ์

ฝรั่งเศสเบื้องต้น ฉบับสมบูรณ์
รวมสุดยอดสื่อการสอนภาษาฝรั่งเศส หนังสือ 4 เล่ม 11 VideoCD เป็นเนื้อหาระดับขั้นพื้นฐาน ไวยากรณ์ เบื้องต้นประโยค-คำตอบ บอกเล่าเรื่องราวใกล้ตัว บทสนทนาต่างๆมากกว่า 100 สถานการณ์
เหมาะสำหรับผู้ที่สนในเรียนเกี่ยวกับภาษาฝรั่งเศส เนื้อหาในชุดเริ่มตั่งแต่ศึกษาระดับพื้นฐาน คือการเรียนพยัญชนะ สระ คำนาม หลักไวยากรณ์เบื้องต้น การบอกเล่าเรื่องราวใกล้ตัว
รูปแบบบรรจุภัณฑ์: หนังสือ 4 เล่ม+ 11 VideoCD ราคาพิเศษ 765 บาท
ราคาปกติ 899 บาท


ภายในชุดประกอบด้วย

1.พูดฝรั่งเศสเป็นเร็ว 1 (หนังสือ 1 เล่ม + 3 VideoCD)                              
การแนะนำตัว-การทักทาย         
• การทักทายตอนเช้า
• การทักทายตอนบ่าย
• การทักทายตอนเย็น
• การกล่าวลา
• การแนะนำตัว
• การถามความเป็นอยู่
• การถามที่อยู่อาศัย
• การถามอายุ
• การถามอาชีพ
• การถามถึงสถานที่ทำงาน
• การแนะนำบุคคล
• การทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน
• ฤดูกาล
การชักชวน
• การชักชวน 1
• การชักชวน 2
การนัดพบ
• การนัดพบหมอ
• การนัดพบลูกค้า
• การนัดพบเพื่อน
การเข้าพบบุคคล
• กรณีนัดล่วงหน้า
• กรณีไม่ได้นัดล่วงหน้า
การแสดงความรู้สึก
• การอวยพรวันเกิด
การโทรศัพท์
• กรณีโทรไปที่ทำงาน
• กรณีที่ผู้ต้องการสนทนาอยู่บ้าน
• กรณีที่ผู้ต้องการสนทนาไม่อยู่บ้านและทราบเวลากลับ
• กรณีที่ผู้ต้องการสนทนาไม่อยู่บ้าน ไม่ทราบเวลากลับ และฝากชื่อไว้
• กรณีโทรผิด
การสอบถามข้อมูล
• โทรศัพท์สาธารณะ
• วันที่
• เวลา
• วัน-เวลาทำการ
• การถามทาง 1
• การถามทาง 2
• สถานที่จอดรถ
การขึ้นรถโดยสาร
• รถแท็กซี่
• รถประจำทาง
ร้านอาหาร
• การโทรศัพท์สั่งอาหาร
• การโทรศัพท์จองโต๊ะอาหาร
• การเข้ารับประทานอาหาร
• การสั่งอาหาร 1
• การสั่งอาหาร 2
• การเรียกเก็บเงินค่าอาหาร
การซื้อสินค้า
• การถามหาร้านค้า
• การถามหาสินค้า
• การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า
• การซื้ออุปกรณ์สำนักงาน
• การซื้อของใช้
• การใช้บัตรเครดิต
• การต่อรองราคา 1
• การต่อรองราคา 2
ร้านตัดผม
• การตัดผม

2.พูดฝรั่งเศสเป็นเร็ว 2 (หนังสือ 1 เล่ม + 3 VideoCD)
ร้านตัดเสื้อ
• การสั่งตัดเสื้อผ้า
• การลองชุด
โรงภาพยนตร์
• การโทรศัพท์จองตั๋วชมภาพยนตร์
• การซื้อตั๋วชมภาพยนตร์
งานอดิเครก
• ดนตรี
• สัตว์เลี้ยง
• กีฬา
ศูนย์บริการลูกค้า
• การแปลภาษา
• การส่งซ่อมโทรศัพท์มือถือ
• การรับโทรศัพท์มือถือ
ศูนย์บริการรถยนต์
• การเช่ารถ
• การตรวจสภาพรถยนต์
• การซ่อมรถยนต์
ปั๊มน้ำมัน
• การเติมน้ำมัน
ร้านถ่ายรูป
• การซื้อฟิล์ม
• การล้างรูป
การท่องเที่ยว
• การติดต่อประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว
• การถ่ายรูป
• การขอให้ผู้อื่นถ่ายรูปให้
สถานีรถไฟ
• การถามเส้นทาง 1
• การถามเส้นทาง 2
• การถามเวลาเดินรถ
สนามบิน
• การถามหาที่นั่งบนเครื่องบิน
• ด่านตรวจคนเข้าเมือง
• การจองตั๋วเครื่องบิน 1
• การจองตั๋วเครื่องบิน 2
โรงแรม
• การโทรศัพท์จองห้องพัก
• การเข้าพักกรณีจองล่วงหน้า
• การเข้าพักกรณีไม่ได้จองล่วงหน้า
• การเช็คเอาท์โรงแรม
โรงพยาบาล
• การทำบัตรใหม่
• การบอกอาการ
• การรับยา
• การถามหาห้องผู้ป่วย
• การเยี่ยมไข้
สถานีตำรวจ
• การโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
• การแจ้งความ 1
• การแจ้งความ 2
• การแจ้งลืมของ
การแจ้งเก็บของได้
ธนาคาร
• การเปิดบัญชี
• การทำบัตรเครดิต
• การฝากเงิน
• การแลกเงิน
ที่ทำการไปรษณีย์
• การส่งจดหมายไปต่างประเทศ
• การส่งพัสดุไปต่างประเทศ
ห้องสมุด
• การทำบัตรห้องสมุด
• การขอยืมหนังสือ
• การคืนหนังสือ

3.เรียนลักภาษาฝรั่งเศส 1 (หนังสือ 1 เล่ม + 3 VideoCD)
-เนื้อหา ฯลฯ
2.เรียนลัดภาษาฝรั่งเศส 2 (หนังสือ 1 เล่ม + 2 VideoCD)
-เนื้อหา ฯลฯ

สั่งซื้อหรือดูรายเอียดคลิก

เรียนให้เก่ง ต้องแบบนี้

เรียนให้เก่ง ต้องแบบนี้
จะเรียนตก เรียนไม่เก่ง สมองไม่เร็วทันเพื่อน เรียนไม่ทันเพื่อน กิจกรรมทางโรงเรียนเยอะทำให้เรามีเวลาเรียน วันนี้เรามีเคล็ดลับมาฝากกัน เรียนเก่งไม่ใช่พรสวรรค์ แต่อยู่ที่ความตั้งใจและความเอาใจใส่ ไปดูกันเลยค่ะว่ามีเคล็ดลับเรียนเก่งอะไรบ้าง
1. คนเรียนเก่ง แบ่งเวลาเป็น
   เคล็ดลับข้อแรก ถึงแม้ว่าเราจะชอบเล่นเกมส์ อ่านการ์ตูน เล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้ง ฯลฯ ขอแค่เราแบ่งเวลาให้เป็น เวลาไหนเล่นก็เล่น เวลาไหนเรียนก็เรียน จะเล่นวันละกี่ชั่วโมงก็ได้ แต่ขอเจียดเวลามาเรียนนอกเหนือจากในห้องเรียนสักวันละ 30 นาที – 1 ชั่วโมงก็พอแล้ว (เสาร์-อาทิตย์ไม่ต้องก็ได้) ทำง่ายๆแต่ได้ผลชงัดนัก
2. คนเรียนเก่ง ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง
   แม้หลายๆคนจะรู้อยู่ว่าดินพอกหางหมูไม่ดี แต่ก็เชื่อว่าทุกๆคนก็เคย หรือยังมีดินพอกหางหมูอยู่ทั้งนั้น  มันลำบากมากที่ต้องมาตามแก้ดินพอกหางหมู บางครั้งใช้เวลามากกว่าเดิม 3 เท่าบ้าง 4 เท่าบ้าง รู้งี้ทำซะเลยไม่ปล่อยให้พอกก็ดีหรอก T_T
3. คนเรียนเก่ง ไม่เรียนอัดก่อนสอบ
   ข้อนี้ตามสองข้อที่แล้วมาติดๆ ถ้าน้องปล่อยพอกไว้ตั้งแต่ต้นเทอม ยันปลายเทอม แล้วมาอัดอ่านทีเดียวก่อนสอบ มันจะไม่ทันเอา หลายเรื่อง หลายวิชา ถ้าใครเคยเรียนอัดก่อนสอบคงรู้ดี ว่า อ่านบทแรกก็ยังโออยู่ แต่พออ่านบทสอง ดั๊นลืมบทแรก พออ่านบทสาม ดั๊นลืมบทสอง ฯลฯ แบบนี้เรียกว่า ได้หน้าลืมหลัง มาดูตัวอย่างสดๆกันตรงนี้เลย นายติวฟรีถามว่า เคล็ดลับข้อแรกคืออะไร  เชื่อว่าตอบไม่ได้กันเกินครึ่ง อิอิ จริงๆแล้วมันมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนอยู่นะว่า สมองของคนเรา จะสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้ดีโดยค่อยๆจดค่อยๆจำสะสมไปเรื่อยๆ ถ้ามาพยามจดจำในระยะเวลาสั้นๆมันจะไม่เข้าหัว ขนาดไอน์สไตน์ฉลาดเป็นกรด ก็ยังจำเยอะๆในเวลาสั้นๆไม่ไหวเลย
4. คนเรียนเก่ง ทบทวนล่วงหน้า-หลังเรียน เข้าหัวไม่ต้องจำ
   เชื่อว่าข้อนี้ถูกใจคนขี้เกียจจำไม่น้อย เคล็ดลับง่ายๆ อ่านล่วงหน้าก่อนเข้าห้องเรียนสัก 10-15 นาที อ่านผ่านๆแค่หัวข้อก็พอว่าวันนี้เราจะเรียนอะไรบ้าง พอตกเย็น ก็อ่านทบทวนผ่านๆอีกรอบว่าวันนี้เราเรียนอะไรไป วันต่อวัน มันจะเข้าไปอยู่ในหัวเองไม่ต้องออกแรงจำให้เมื่อย แถมทำบ่อยๆมันจะประติดประต่อกันเองทั้งเทอม โอ้ สบายเลย
5. คนเรียนเก่ง ดูแลตัวเอง กินให้พอ นอนให้พอ
   หลายๆคนคิดว่า นี่คือเคล็ดลับตรงไหนเนี่ย แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นสุดยอดเคล็ดลับ ที่ทำให้น้องเก่งจากภายใน ร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ กินอิ่มนอนหลับ จะส่งผลให้ สมองปลอดโปร่งตามไปด้วย พอสมองปลอดโปร่ง จะแล่นมาก จำอะไรได้ง่ายกว่า เร็วกว่า เยอะกว่า ไม่ลองไม่รู้นะเออ
6. คนเรียนเก่ง ลงมือทำโจทย์ แบบฝึกหัด การบ้าน
   น้องๆหลายคนมองข้ามการทำโจทย์และแบบฝึกหัดต่างๆไปโดยสิ้นเชิง แล้วกลับไปให้ความสำคัญกับการเรียนเนื้อหา หรือทฤษฎีต่างๆ หลายๆคนหนักข้อ แบบฝึกหัดข้อแรกที่ได้ทำคือในห้องสอบนั่นเอง แล้วมันจะทำได้ยังไง T_T พอออกมาจากห้องสอบก็น้ำตาตกในทำไม่เป็น นักฟุตบอลเก่งๆอย่างเมสซี่ เขามีความลับในความเก่งซ่อนอยู่ นั่นคือ เขาใช้เวลาเรียนทฤษฎีนิดเดียว เอาให้ได้ครบสักรอบสองรอบก็พอ แล้วใช้เวลาที่เหลือไปทุ่มเทให้กับการซ้อมในสนาม (ทำแบบฝีกหัด) อย่างหนักทุกวันๆ ถ้าอยากเรียนเก่งเหมือนเมสซี่เล่นบอลเก่ง เราก็ต้องขยันทำแบบฝึกหัดเยอะๆเข้าไว้
7. มั่นใจในตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองไม่เก่งเรียนยังไงก็ไม่ได้
   ข้อห้ามที่สำคัญมากๆ ห้ามคิดว่าตัวเองไม่เก่งแล้วไม่สามารถทำได้เด็ดขาด เด็กไม่เก่งก็มีวิธีเรียนดีของเด็กไม่เก่งเหมือนกัน ท้อได้แต่ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด
8. คนเรียนเก่ง ติวเป็นกลุ่มกับเพื่อน ผลัดกันถาม ผลัดกันตอบ
   การอ่านคนเดียวบางครั้งเราก็มองข้ามเรื่องสำคัญบางเรื่องไป การจับกลุ่มกะเพื่อน ติว หรือผลัดกันถามตอบ ก่อนสอบ จะทำให้เราได้ในส่วนที่เรามองข้ามไป ถึงบางอ้อหลายจุด บางครั้งการจับกลุ่มถามตอบก่อนเข้าห้องสอบไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้เราจำอะไรดีๆได้มากกว่าที่คิดอีกนะ
9. คนเรียนเก่ง ทำ mindmap เรียนรู้จากภาพใหญ่ไปภาพเล็ก
   มันจะง่ายกว่าเยอะมากถ้าเรามองความสัมพันธ์ของเนื้อหาทั้งหมดโดยรวม ว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร แล้วมีหัวข้ออะไรบ้าง แต่ละหัวข้อเกี่ยวข้องกันอย่างไร อย่างการทำ mindmap นั้นช่วยได้มากๆ ที่สำคัญทำง่ายด้วย ไม่ต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก แค่มีกระดาษกะปากกา ก็สามารถทำเองได้แล้ว
10. คนเรียนเก่ง ทำสรุป/ช้อตโน้ตด้วยตัวเอง
   การทำสรุปหรือช้อตโน้ตจะเป็นเสมือนการทบทวนและสรุปเนื้อหาด้วยตัวเอง น้องๆจะมีสรุปของเพื่อนที่เก่งๆก็ได้ แต่สำคัญคือ ให้ทำเวอร์ชันของตัวเองด้วย (เขียนสรุปจากสรุปของเพื่อนก็ได้นะ) แค่การทำก็เหมือนว่าได้ทบทวนไปแล้วรอบนึง ที่สำคัญคือ เมื่อตัวเองมาอ่านสรุปของตัวเองแล้วนั้น มันจะจำได้ชัดเจนมากกว่าการอ่านสรุปของคนอื่นมากๆ ยิ่งถ้าเขียนสรุปด้วยปากกาหลายสี วาดรุปน่ารักๆลงไป บางครั้งในห้องสอบ จำได้ด้วยแน่ะ ว่าตรงนี้เราสรุปด้วยปากกาสีอะไร วาดรูปอะไรลงไป
 

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

พูด เขียน เรียน ภาษาจีน สื่อการเรียนรู้ภาษาจีนระดับเบื้องต้น

 พูด เขียน เรียน ภาษาจีน สื่อการเรียนรู้ภาษาจีนระดับเบื้องต้น

รูปแบบบรรจุภัณฑ์: หนังสือ 4 เล่ม + 8 VideoCD
 
รวม 3 สุดยอดสื่อการเรียนรู้ภาษาจีนระดับเบื้องต้น ที่ประสบความสำเร็จได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน
ภาษาจีนมาก่อน เนื้อหาประกอบด้วย หลักเกณฑ์การเขียนอักษรจีน โครงสร้างทางภาษา ไวยากรณ์ และการสนทนา

ภายในชุดประกอบด้วย

ก้าวแรกกับภาษาจีน แบบฝึกหัดและลำดับขีด (หนังสือ 2 เล่ม + 5 VideoCD)
Disc 1
• การทักทาย-ถามไถ่
• การพูด-ถามไถ่ถึงครอบครัว
Disc 2
• การแนะนำตัว
• ตัวเลขและจำนวนนับ
Disc 3
• วัน, เดือน, ปี
• เวลา
Disc 4
• กิจวัตรประจำวัน
• ชอบ-ไม่ชอบ เคย-ไม่เคย
Disc 5
• แสดงความเป็นเจ้าของ
• อาหาร-การรับประทาน

คัดจีน (หนังสือ 1 เล่ม)
สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกเขียนอักษรจีน ช่วยทำให้มีทักษะในการเขียนกับแบบฝึกคัดอักษรจีน ได้เป็นอย่างดี ภายใน 1 คำคุณจะได้พบกับ
• ลำดับขีด
• ตารางคัดอักษรจีน
• กลุ่มคำที่เกี่ยวข้อง
• ตัวอย่างประโยค
• และเสริมทักษะด้านภาษาด้วยคำศัพท์ 4 ภาษา
- ไทย
- อังกฤษ
- จีน
- ญี่ปุ่น
สนทนาภาษาจีนกลาง 1,000 ประโยค (หนังสือ + 3 VideoCD)
หัวข้อบทสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ มีดังนี้
DISC 1
• การทักทาย
• การแนะนำตัว
• การกล่าวลา
• การคุยกับคนแปลกหน้า
• การอวยพร
• การเชื้อเชิญ
• การเสนอ
• การขอบคุณ
• การชื่นชม
DISC 2
• การแสดงความยินดี
• การขอโทษ
• การพูดซ้ำ
• ความแน่ใจ
• ความชอบและไม่ชอบ
• การอนุญาต
• การนัดหมาย
• การถามทาง
• การซื้อของ และการต่อรองราคา
DISC 3
• ที่ภัตตาคาร
• โรงแรม
• การบอกที่ตั้งของสิ่งของ หรือที่อยู่ของบุคคล
• การโทรศัพท์
• ปั๊มน้ำมัน
• ความเจ็บไข้ได้ป่วย
• ร้านตัดผม
• ธนาคาร

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ก่อนที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน

ก่อนที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน

คอลัมน์: สารพันปัญหาเงินทอง: ประวีร์ พิชัยศรทัต
         เรียนคุณประวีร์ พิชัยศรทัต ที่นับถือ
         ผมติดตามอ่านคอลัมน์ ได้อ่านตอนที่พูดเรื่องอิสรภาพทางการเงินผมเชื่อว่าใครๆ ก็อยากที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน ในการมีเงินมาใช้จ่ายครับ แต่ในภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจแบบนี้ ไหนจะน้ำมันแพง ข้าวก็แพง ของกินของใช้ต่างๆ ก็แพงขึ้นไปหมด แต่เงินได้-เงินเดือนของเราเท่าเดิม ผมอยากจะให้ช่วยมีข้อเสนอมาแนะนำเป็นแนวทางที่จะช่วยให้มีอิสรภาพทางการเงินได้ด้วย ขอขอบคุณสำหรับ การรับพิจารณาเรื่องนี้ด้วยครับ
         ธนา
         ตอบคุณ ธนา
         สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอทวนอีกครั้งว่าคำว่า การมี "อิสรภาพทางการเงิน" ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคนร่ำรวย หาเงินได้มากๆ จะใช้จ่ายอะไรก็เต็มที่ แบบไม่ต้องห่วงอะไรนะครับ แต่การมีอิสรภาพทางการเงินในมุมของเรื่องการเงินก็คือการที่เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างมีสุขภาพชีวิตที่ดี พอเพียงแก่ความต้องการ และใช้จ่ายอย่างไม่ต้องมีห่วง ไม่ต้องพะวง จะทำได้ก็มาจากการวางแผนการเงินที่ดี ซึ่งทำให้เรามีช่องในการใช้จ่ายเงินได้อย่างอิสระ ทีนี้เรามาลองดูขั้นตอนสู่อิสรภาพทางการเงินกันนะครับ
         1) จัดทำบัญชี และงบการเงิน การที่เราจะเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงินก็เหมือนกันกับการเดินทาง ที่ทั่วไปต้องมีแผนที่นำทาง ดังนั้น ก่อนจะเริ่มเดินทาง ท่านผู้อ่านเองก็ควรจะรู้ก่อนว่า ปัจจุบันท่านอยู่ ณ จุดไหนของคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" ลองมาทบทวนและจัดทำงบการเงินดูนะครับ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าแต่ละวัน แต่ละเดือน เราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และอยู่ในงบที่เรามีหรือไม่ หรือใช้เกินงบไปเท่าไหร่ เพราะอะไร
         2) ตั้งเป้าหมาย และวางแผน เริ่มต้นจากอิสรภาพทางการเงินที่เขาจัดไว้ในสิ่งที่เป็นขั้นพื้นฐานซึ่งมีอยู่ 6 ประการ ที่ต้องมีการกำหนดและวางแผนคือ
         * เศรษฐกิจพอเพียง คือรู้ที่จะไม่ใช้จ่ายเกินฐานะแห่งตน
         * เก็บออม 10-20 เปอร์เซ็นต์ ของรายรับทั้งหมด (ประมาณ) จะเป็นร้อยละเท่าไร ตรงนี้แล้วแต่สัดส่วนของรายได้และรายจ่ายครับ
         * สำรองเงินไว้ใช้จ่าย ให้มีอย่างน้อย 6 เดือน และเงินส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับเงินออม
         * ประกันชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหตุ ควรมีให้พร้อม เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งและเพื่อความสบายใจ
         * เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับรายรับรายจ่าย แผนการเงิน การลงทุน
         * มีการบริจาคตามกำลัง อันนี้แต่ละคนคงไม่เท่ากันลองพิจารณาดูว่าชีวิตของท่านผู้อ่านบรรลุเป้าหมายพื้นฐานในแต่ละข้อข้างต้นหรือยัง ถ้ายัง ให้กำหนดหัวข้อเหล่านี้เป็นเป้าหมาย ที่สำคัญต้องกำหนดวิธีการ กรอบเวลา รวมถึงประเมินภาพในอนาคตไว้ด้วย ส่วนใครที่มีอิสรภาพการเงินขั้นพื้นฐานแล้ว ก็อาจตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นไปได้ ไม่ว่ากัน ซึ่งต่อไปก็คือ
         3) ลงทุนในการเรียนรู้ มีคำกล่าวว่า "High Understanding, High Returns" ซึ่งตรงนี้บอกเราว่า ยิ่งเราเข้าใจธุรกิจที่เราลงทุนมากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถสร้างกำไรจากมันได้มากเท่านั้น จึงบอกกันว่าจงเรียนรู้ให้หนักขึ้น เพื่อจำกัดความเสี่ยงทั้งหลายทั้งปวงที่อาจจะเกิดขึ้น โลกนี้ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่เราคิดครับ แต่ที่ใครหลายคนคิดว่ามันยาก เพราะเขาเหล่านั้นไม่เคยแบ่งเวลามาสนใจใยดีกับมันต่างหาก
         ฉะนั้น แนะนำให้แบ่งเวลาและแบ่งใจให้กับการเรียนรู้ทุกรูปแบบ อย่าจำ กัดเฉพาะแต่ในห้องเรียน จงมองโลกให้กว้างเพื่อที่เราจะได้เห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่อีกมากมายบนโลกใบนี้ ติดตามต่อตอนจบในฉบับหน้าครับ.
         คราวก่อนพูดค้างไว้เรื่องอิสรภาพทางการเงินซึ่งผมก็เชื่ออย่างที่คุณธนาเขียนมาคือ ผมเชื่อว่าใครๆก็อยากที่จะมีอิสรภาพทางการเงินในการมีเงินมาใช้จ่าย ฉบับที่แล้วพูดไว้ถึง ขั้นตอนสู่อิสรภาพทางการเงิน ค้างถึงขั้นที่สามยังไม่จบ คือการลงทุนในการเรียนรู้ เรามาต่อที่ว่า แล้วเราลงทุนในการเรียนรู้ด้วยอะไรบ้าง?
         * เวลา นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องพิจารณา ปัจจุบันคุณให้เวลากับการเรียนรู้สักแค่ไหน ถ้าคิดว่ายังน้อยไป จัดแบ่งเวลาในการเรียนรู้ให้มากขึ้น แล้วคุณจะได้รับมันมากขึ้น
         * ความคิด คนสองคนเข้าคอร์สเดียวกัน นั่งเรียนอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งเอากลับมาคิดต่อยอดไปสู่การกระทำ ส่วนอีกคนได้แค่นั่ง ดีใจว่ารู้แล้ว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับสองคนนี้อาจต่างกันมหาศาลครับ
         * สายสัมพันธ์ การลงทุนในสายสัมพันธ์ (ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเครือข่าย หรือ connection อย่างเดียวนะครับ) ก็สามารถสร้างการเรียนรู้ได้อย่างมากมาย คนหลายคนมักคบหา หรือคิดถึงคนอื่นยามที่ตัวเองเดือดร้อนเท่านั้น เรียนรู้ที่จะใช้เวลากับผู้อื่นแบ่งปันความรู้ ความคิด ความช่วยเหลือให้กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่แตกต่างจากคุณ เพราะมันจะช่วยให้โลกของคุณกว้างขึ้น ไม่เพียงแค่ความรู้ แต่มันคือโลกแห่งความรัก และความเอื้ออาทรกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เงินก็ซื้อหาไม่ได้
         * ความรู้ เข้าร่วมทำงานกับองค์กร หรือชมรมที่ท่านสนใจ เพื่อสร้างโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อันจะก่อให้เกิดบูรณาการทางความรู้และความคิดได้เป็นอย่างดี* การตั้งคำถาม คำถามที่ดีเป็นการสร้างโจทย์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ชีวิต ในทางตรงกันข้าม คำถามแย่ๆ ก็ทำให้คุณเป็นคนในด้านตรงกันข้ามได้เช่นกัน ลองพิจารณาคำถามต่อไปนี้นะครับ
         "ทำไม เราไม่เกิดมารวยเหมือนคนอื่นบ้าง""ทำไม เราไม่โชคดีเหมือนคนอื่นเขาบ้าง" ฯลฯ แล้วถ้าเราเริ่มต้นใหม่ ตั้งคำถามที่ดีให้กับตัวเอง แล้วท่านผู้อ่านจะได้คำตอบที่ดีกลับคืนมา อย่าง "ฉันจะประสบความสำเร็จในชีวิตก่อนอายุ 40 ปี ได้อย่างไร" คำถามใหม่ๆ จะนำคุณไปสู่การลงทุนครั้งใหม่ในชีวิต จงเลิกถามคำถามเก่าๆ ใช้ชีวิตกับคำถามใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ เช่น "หุ้นตัวไหนน่าซื้อ" "กู้เงินแบงก์ไหน ดอกเบี้ยต่ำสุด" "มีเงินเก็บ 100,000 ทำธุรกิจอะไรดี" "สิ่งที่ท่านผู้อ่านถาม คือ สิ่งที่ท่านจะได้รับนะครับ" ยังมีคำถาม อื่นๆอีกมากมาย (ลองคิดต่อเองนะครับ)
         4.แวดล้อมตัวเรา ด้วยคนที่คิดแบบเดียวกัน คนเราเป็นไปตามสภาวะแวดล้อมเสมอ อิสรภาพทางการเงิน เกิดได้ทันทีที่เราเป็นผู้เลือกกระทำ ดังนั้น จงเลือกสภาวะแวดล้อมที่จะพาชีวิตของเราไปในทางที่ดี คล้ายๆ กับที่สุภาษิตบอกให้คบบัณฑิต เพราะบัณฑิตพาไปหาผล นั่นไงครับ
         5. ลงมือปฏิบัติ บันทึกผล "บิดาของความสำเร็จ คือ การกระทำ" คำพูดนี้ยังคงเป็นสิ่งที่เป็นจริงเสมอ ขอให้ลงมือปฏิบัติตามแผนงานที่กำหนดไว้ จดรายละเอียดของทุกการ กระทำสำคัญๆ ไว้ เพื่อเปรียบเทียบและปรับแก้แผนงานสู่อิสรภาพทางการเงิน
        6. ทบทวน ตรวจสอบผลการปฏิบัติกับแผนที่วางไว้ ว่าเป็นไปตามแผนแค่ไหน ต้องปรับแก้อะไร ในขั้นตอนนี้อาจปรึกษาผู้ประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยทบทวนและให้คำแนะนำในการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป หัวข้ออะไรบ้างที่ต้องทบทวน
         * ความคิด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องตรวจสอบตลอดเวลา หมั่นคอยเช็กและตรวจสอบความคิดของเรา ถูกต้อง หรือสอดคล้องกับแนวทางสู่อิสรภาพทางการเงิน หรือไม่
         * จิตใจ ตรวจสอบจิตใจทั้งก่อนและหลังตัดสินใจใช้จ่าย หรือลงทุน จำเอาไว้ว่า การลงทุนที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขตั้งแต่ใส่เงินลงไป นั่นก็ถือว่า ขาดทุน เรียบร้อยแล้ว
         * งบการเงิน ตรวจสอบแผนที่ทุกครั้ง โดยอาจทำเป็นประจำทุกเดือน เพื่อคอยตรวจสอบว่า เราเดินออกนอกลู่นอกทางหรือเปล่า หรือเราเข้าใกล้อิสรภาพทางการเงินเพียงใด เริ่มต้นตรวจสอบตัวเอง จัดทำบัญชี และวางแผนสู่อิสรภาพทางการเงินตั้งแต่วันนี้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง จงจำเอาไว้ว่า "อิสรภาพทางการเงิน เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ ของทุกๆ คนครับ" ขอขอบคุณความอนุเคราะห์ข้อมูลจาก bizkons.com ครับ.
         ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund-SWF)


โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



10 กองทุนมั่งคั่งครองโลก ท็อป 10 SWF เหล่านี้มีเงินเท่าไร และลงทุนอะไรบ้าง
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund-SWF) เป็นโมเดลที่หลายประเทศนิยมใช้ และกลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดการเงินโลก โดยมีเป้าหมายหลักๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค การออมเงิน และการบริหารทุนสำรองระหว่างประเทศ

เมื่อเอ็กซเรย์กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติขนาดใหญ่ กองทุนเหล่านี้ลงทุนทั้งในตลาดหุ้น พันธบัตร และการลงทุนหลากหลายรูปแบบ คล้ายกับกองทุนไพรเวต อีควิตี้ และเฮดจ์ฟันด์ โดยพบว่ามี 10 กองทุนยักษ์ครองโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนมั่งคั่งของประเทศผู้ร่ำรวยน้ำมันในตะวันออกกลาง และประเทศที่มีหนี้ระดับต่ำในภูมิภาคเอเชีย ทั้งหมดมีเงินมหาศาลที่จะใช้ลงทุน ประเมินกันว่าสินทรัพย์ในมือของกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติทั่วโลก รวมกันทั้งหมดประมาณ 5-6 ล้านล้านดอลลาร์

กองทุนที่มีขนาดใหญ่สุดในปัจจุบัน คือ "กองทุนเพื่อการเกษียณอายุของนอร์เวย์" (Norway's Government Pension Fund) ซึ่งบริหารสินทรัพย์ 6.12 แสนล้านดอลลาร์ แบ่งการลงทุนในพอร์ตเป็นตราสารทุน (equities) 60% และตราสารหนี้ (fixed income) 40% สำหรับผลกระทบที่จะเกิดกับตลาด กองทุนแห่งนี้คัดค้านข้อตกลงควบรวมกิจการระหว่างเกล็นคอร์และเอ็กซ์สตราตา ซึ่งเป็นข้อตกลงขนาดใหญ่สุดในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ

อันดับ 2 "อาบูดาบี อินเวสต์เมนต์ ออทอริตี้" มีสินทรัพย์ในมือประมาณ 3.65 แสนล้านดอลลาร์ กองทุนนี้เน้นลงทุนในตราสารทุน 70% ลงทุนทางเลือก (alternative investments) 20% และมีเงินสด 10% กองทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แห่งนี้ถือหุ้น 4.9% ในซิตี้กรุ๊ป

อันดับ 3 "คูเวต อินเวสต์เมนต์ ออทอริตี้" ถือครองสินทรัพย์ 2.90 แสนล้านดอลลาร์ แม้ไม่มีรายละเอียดว่าลงทุนอะไรในสัดส่วนเท่าไร แต่กองทุนแห่งนี้ถือหุ้น 7% ในเมอร์ริล ลินช์

อันดับ 4 "บรรษัทเพื่อการลงทุนแห่งรัฐบาลสิงคโปร์" (จีไอซี) บริหารสินทรัพย์ราว 2.47 แสนล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นการลงทุนในตราสารทุน 51% ลงทุนทางเลือก 25% และตราสารทุน 20% รวมถึงเป็นเจ้าของสำนักงานในลอนดอนของเมอร์ริล ลินช์

อันดับ 5 "ไชน่า อินเวสต์เมนต์ คอร์ปอเรชั่น" ของจีน มีสินทรัพย์ 1.77 แสนล้านดอลลาร์ โดยกระจายการลงทุนในตราสารทุน 33.8% ของพอร์ต ลงทุนทางเลือก 22.8% ตราสารหนี้ในประเทศ 21.7% และมีเงินสด 15.8% กองทุนแห่งนี้ถือหุ้น 10% ในมอร์แกน สแตนเลย์ และแบล็คสโตน

อันดับ 6 "เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์" ของสิงคโปร์ บริหารสินทรัพย์ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มจากปีที่แล้ว 2.8% เน้นลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก 60% ลงทุนในตราสารทุน 35% และการลงทุนทางเลือก 5%

อันดับ 7 "กองทุนประกันสังคมแห่งชาติจีน" บริหารสินทรัพย์ประมาณ 1.36 แสนล้านดอลลาร์ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ 60% ตราสารทุน 35% และการลงทุนทางเลือก 5%

อันดับ 8 "กาตาร์ อินเวสต์เมนต์ ออทอริตี้" มีสินทรัพย์ราวๆ 1.35 แสนล้านดอลลาร์ กองทุนแห่งนี้เป็นเจ้าของหุ้น 1 ใน 4 ในซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของอังกฤษ "เซนส์บูรีส์"

อันดับ 9 "อาบูดาบี อินเวสต์เมนต์ เคาน์ซิล" กองทุนแห่งนี้บริหารสินทรัพย์ 1.20 แสนล้านดอลลาร์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ซื้อคลังสินค้าในญี่ปุ่น

อันดับ 10 "กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งรัสเซีย" บริหารสินทรัพย์ 8.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ลงทุน 100% ในตราสารหนี้นอกประเทศ โดยลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศหลักๆ ในยุโรป ยกเว้นอิตาลี

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พูดเกาหลี ฉบับสมบูรณ์

พูดเกาหลี ฉบับสมบูรณ์
รูปแบบบรรจุภัณฑ์: หนังสือ 3 เล่ม + 10 VideoCD
เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในภาษาเกาหลี เนื้อหาประกอบด้วยบทสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นสำนวนที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
พูดเกาหลี ฉบับสมบูรณ์
 แถม! เพลงบรรเลงเปียโน Mozart 10 เพลง และ เพลงดนตรีบำบัด 14 เพลง (แถมฟรี 2 แผ่น มูลค่า 400 บาท)
สื่อการสอนชุด พูดเกาหลี ฉบับสมบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรียนภาษาเกาหลี และผู้ที่ต้องการพูดภาษาเกาหลีให้ได้โดยเร็ว เนื้อหาในชุดเน้นการสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ ที่มักเจอในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งรวบรวมประโยคสนทนาแบบสั้นๆ และถ้อยคำสุภาพทั่วไป ออกเสียงประโยคและบทสนทนาโดยชาวเกาหลีจะทำให้ผู้เรียนเกิดความคุ้นเคยกับสำเนียงจากเจ้าของภาษา สามารถพูดตามได้อย่างเข้าใจ มีคำอธิบายบทเรียนเป็นภาษาไทยสามารถเรียนรู้ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้พูดภาษาเกาหลีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ภายในชุดประกอบด้วย:
1. เกาหลีเป็นเร็ว 1 (หนังสือ 1 เล่ม + 3 VideoCD)
2. เกาหลีเป็นเร็ว 2 (หนังสือ 1 เล่ม + 3 VideoCD)
3. สนทนาภาษาเกาหลี 1,000 ประโยค (หนังสือ 1 เล่ม + 3 VideoCD)

สนใจดูรายละเอียดคลิกที่นี่

สวนสวยจัดได้ด้วยตนเอง

สวนสวยจัดได้ด้วยตนเอง การจัดสวน
รูปแบบบรรจุภัณฑ์: หนังสือ 1 เล่ม + DVD 1 แผ่น

จัดสวนสวย พร้อม DVD สาธิตการจัดทุกสวนอธิบายชัดเจนทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสมบูรณ์
หลายๆ คนที่รักและชื่นชมใจความสวยงามของธรรมชาติ พันธุ์ไม้นานา ตลอดจนการเคลื่อนไหวของสายน้ำในลักษณะต่างๆ กันออกไป คงอยากจะจัดสวยให้สวยงามตามรูปแบบที่ตนชื่นชอบและประทับใจเอาไว้ในบ้านของตน แต่ก็ยังมีความยุ่งยากลำบากใจในเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งจากการจัดสวนการบำรุงรักษาสวนให้คงความสวยงาม
  พบกับสวนสวยในอุดมคติ 14 รูปแบบ ที่จัดตามงบประมาณ พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกด้านที่ถูกใช้จริง ในการจัดสวนด้วยตนเอง ซึ่งจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการจัดแต่ละสวน ให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้ เพื่อให้คุณเลือกสรรและนำไปประยุกต์ตามความาชอบ และความเหมาะสมตามขนาด และตำแหน่งของพื้นที่ในบ้าน นอกจากจะได้สวนในรูปแบบที่ตรงตามความต้องการ แล้วยังได้รับความสุขและความภาคภูมิใจเมื่อได้ชื่นชมสวนสวยๆ ที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของตัวคุณเองอีกด้วย
เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด | ทาวน์เฮ้าส์ | ดาดฟ้าตึกแถว| คอนโด


Chapter 1 : จัดสวนด้วยงบประมาณไม่เกิน 500 บาท
Chapter 2 : จัดสวนด้วยงบประมาณไม่เกิน 1,000 บาท
Chapter 3 : จัดสวนด้วยงบประมาณไม่เกิน 2,000 บาท
Chapter 4 : จัดสวนด้วยงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท
Chapter 5 : จัดสวนด้วยงบประมาณไม่เกิน 4,000 บาท
Chapter 6 : จัดสวนด้วยงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท
Chapter 7 : ข้อคิดบางประการเกี่ยวกับการจัดสวยด้วยตนเอง

ดูรายละเอียดที่นี่